นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (EPA) ไทย-เกาหลีใต้ ครั้งที่ 6 ซึ่งเกาหลีใต้เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 10-13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ณ กรุงโซล ว่า การเจรจารอบนี้ มีความคืบหน้าดี โดยทั้งสองฝ่ายได้ตั้งเป้าที่จะประกาศความสำเร็จของการเจรจาฯ ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค (APEC Economic Leaders’ Meeting) ที่เกาหลีใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนตุลาคม 2568
นางสาวโชติมา กล่าวว่า การเจรจารอบนี้ ทั้งสองฝ่ายสามารถหาข้อสรุปเพิ่มเติมได้อีก 2 บท คือ บทบริการด้านโทรคมนาคม และบททรัพย์สินทางปัญญา
ทั้งนี้จากการประชุมรอบที่ผ่านๆ มาเป็น 19 บท จากทั้งหมด 24 บท ซึ่งบททรัพย์สินทางปัญญา ภายใต้ EPA ไทย-เกาหลีใต้ ฉบับนี้ จะช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า รวมถึงการคุ้มครองและการบังคับใช้สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน ไทยประเมินว่าเกาหลีใต้จะร่วมผลักดันการเจรจา EPA ไทย–เกาหลีใต้ อย่างเต็มที่ เนื่องจากนายลี แจ-มยอง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่ได้รับเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2568 มีนโยบายให้ความสำคัญต่อการค้าเสรี และส่งเสริมการเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้า เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน รวมถึงการหาพันธมิตรเพื่อสร้างความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานการผลิตสินค้าของเกาหลีใต้
นอกจากนี้ EPA ฉบับนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับภาคเอกชนทั้งสองประเทศในช่วงเวลาที่ทั่วโลกเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของการค้าโลก และช่วยต่อยอดโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งเพิ่มความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทานระหว่างไทยกับเกาหลีใต้จากที่มีความตกลง FTA ระหว่างกันแล้ว 2 ฉบับ คือ FTA อาเซียน-เกาหลีใต้ (AKFTA) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)
สำหรับปี 2567 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 15,281 ล้านดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,938 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,343 ล้านดอลลาร์
ขณะที่ในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค. - เม.ย. 2568) การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 5,189.48 ล้านดอลลาร์ฝ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 1,961.53 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 3,227.94 ล้านดอลลาร์
โดยมีสินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า และน้ำตาลทราย และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ